เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการเรียนบัญชี
1. ต้องเรียนคณิตศาสตร์เก่งขนาดไหน ?
2. เรื่องที่เด็กบัญชีก็เคยเข้าใจผิดก่อนเข้ามาเรียน ?
หลายคนอาจจะมีภาพในหัวว่าการเรียนบัญชี มันก็คงคล้ายๆ การทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายสมัยเด็กๆ แน่เลย หรืออาจจะคิดว่าการเรียนบัญชี มันต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ตลอดเวลา อาจจะเป็นอะไรที่น่าเบื่อที่ต้องอยู่ในกรอบเสมอ แต่ความเป็นจริงแล้ว การเรียนบัญชีนั้นเป็นอะไรที่ต้องใช้ความคิดวิเคราะห์ ทุกอย่างต้องเป็นเหตุเป็นผล เด็กบัญชีหลายคนจึงเป็นคนที่ต้องคิดอยู่ตลอดเวลา แล้วสมัยนี้ ธุรกิจมีความซับซ้อนมากขึ้น การทำบัญชีก็มีหลายเรื่องที่ท้าทายอยู่ตลอดเวลา มีเรื่องใหม่ๆ ที่ต้องถกเถียงกันซึ่งต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณเยอะมาก ในบางเรื่องก็อาจไม่มีคำตอบที่ถูกต้องตายตัว มีแค่ว่ามันจะสมเหตุสมผลหรือเปล่า รุ่นพี่บัญชีหลายคนจึงบอกว่า เรียนบัญชีต้องมีใจรักมากๆ เพราะหลายคนก็ท้อและซิ่วไปเรียนสาขาอื่นเยอะเหมือนกัน และถ้าใครที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้เก่งมาก หรืออาจจะไม่ได้รักในวิชาชีพนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องมีก็คือความขยันที่มากขึ้น และค่อยๆให้ใจรักในวิชาชีพนี้
3. เรียนบัญชีจำเป็นต้องเก่งภาษาอังกฤษมั้ย ?
ความจริงแล้ว ไม่ต้องเก่งภาษาอังกฤษก็เรียนได้ แต่คนที่เรียนเก่งภาษาอังกฤษอยู่แล้วจะได้เปรียบมากกว่าเพราะการเรียนการสอนบางวิชาก็เรียนเป็นภาษาอังกฤษ เพราะว่าอาจารย์หลายๆ ท่านก็จบจากเมืองนอกด้วย และถ้าใครคิดอยากจะทำงานในบริษัท Big 4 หรือบริษัทตรวจสอบบัญชี ให้คำปรึกษาทั้งทางบัญชีและภาษีรายใหญ่ของโลก 4 แห่ง ก็จำเป็นอย่างมากที่ต้องเก่งภาษาอังกฤษ เพราะว่าทุกที่กระดาษทำการจะมีความเป็นสากล และเวลาสอบต้องสอบหรือมีคะแนนภาษาอังกฤษทุกที่ ดังนั้น ถ้าเราไม่เก่งก็ต้องฝึกฝน อย่าทำให้ภาษาอังกฤษมาเป็นปมด้อยและตัดโอกาสต่างๆ ในชีวิตเรา เพราะทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาษาอังกฤษนั้นจำเป็นกับเรากับทุกวิชาชีพมาแค่ไหน
4. วิชาไหนที่เด็กบัญชีคิดว่าปราบเซียนสุดๆ ?
ในแต่ละสาขาล้วนแล้วต้องมีวิชาที่ยากและปราบเซียน เช่นเดียวกันกับสาขาบัญชี ก็มีวิชาที่หลายคนต้องร้องโอดครวญและเสียน้ำตากันมาบ้างแล้วนั่นก็คือ "วิชาบัญชีต้นทุน" และ "วิชาบัญชีขั้นกลาง2" เพราะ 2 วิชานี้ทำให้เพื่อนเราหลายๆคนต้องได้ย้ายสาขา และบางคนถึงกับย้ายคณะกันเลยทีเดียว คิดดูว่ามันโหดแสนโหดขนาดไหน มีคนยกธงขาวกับวิชานี้เยอะเลยจ้า
5. เรียนจบบัญชี เป็นแค่นักบัญชีหรือเปล่า ?
คนที่เรียนบัญชีสามารถจบแล้วไปทำอะไรได้หลากหลาย ไม่ได้จำกัดว่าต้องอยู่ในสายอาชีพเพียงอย่างเดียว เพราะว่าในหลักสูตรก็จะมีการเรียนวิชาพื้นฐานอื่นๆ ทางธุรกิจด้วย ทั้งการเงิน (Finance), การตลาด (Marketing), และธุรกิจ (Business) แน่นอนว่า การเรียนจบบัญชีไม่ได้จำเป็นต้องออกไปทำบัญชีอย่างเดียว เราสามารถเป็นนักบัญชี เป็นผู้ตรวจสอบบัญชี (Auditor), เป็นที่ปรึกษา (Advisory) ให้กับบริษัทต่างๆ ในเรื่องของบัญชีและภาษีได้ หรืออาจจะเป็นนักเขียนโปรแกรมทางบัญชีก็ได้ แต่ต้องไปเรียนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เพิ่ม และก็ยังสามารถเป็นอาจารย์สอนบัญชีเหมือนอาจารย์หลายๆ ท่านก็ได้ ถ้าใครคิดจะเบนสายไปทำงานอย่างอื่น อาจจะได้เปรียบกว่า เพราะว่า เด็กบัญชีจะเข้าใจบัญชีได้ลึกกว่าคนทั่วไป เพราะว่า "บัญชีไม่ใช่เรื่องง่าย" สายงานเยอะไม่ต้องกลัวว่าจบบัญชีจะได้ทำงานแค่บัญชี
6. คิดว่าการเรียนบัญชีมันสอนอะไรกับเราได้บ้าง ?
ถ้าใครมีเพื่อนหรือรุ่นพี่ที่เรียนบัญชีมา เราจะสังเกตเห็นได้อย่างหนึ่งในตัวพวกเขาคือ การเป็นคนที่มีความละเอียดมาก ดูจากการซื้อของเลยกว่าจะซื้อได้คือเปรียบเทียบอยู่นั่นแหละอันไหนคุ้มไม่คุ้ม คนที่เรียนบัญชีหลายคนจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่มีความละเอียดมากขึ้น ไม่ว่าจะทำงานอะไรก็จะเรียบร้อย ตรวจสอบถี่ถ้วน ตรวจแล้วตรวจอีก และก็ฝึกในเรื่องของการทำงานเป็นกลุ่มร่วมกับคนอื่น โดยเฉพาะคณะสาขานี้ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ใครที่มีความคิดที่จะไม่พึ่งพาใคร อยู่คนเดียวโนสนโนแคร์โลก ก็อาจจะอยู่ไม่รอด เอาจริงการอยู่คนเดียวไม่ได้ช่วยให้เราเข้าใจมากขึ้นเลย เราต้องมีเพื่อนคอยติวคอยอธิบายให้กันฟัน นี่เรียนมาคือเป็นเพื่อนกับทุกคนในห้องเลยจ้า ช่วยกันทั้งห้อง
เปิดบัญชีซื้อขายฟอเร็กซ์จริง
หลายคนต้องสงสัยและคิดกังวลว่า ต้องเก่งคณิตศาสตร์มากแค่ไหนกัน ถึงจะเรียนบัญชีได้? ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคณิตศาสตร์มีความจำเป็นอย่างมากในการเรียนบัญชี เริ่มตั้งแต่การสอบเข้าเลย คะแนนการสอบคณิตฯ มีส่วนสำคัญมากๆ แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า หลักสูตรของแต่ละมหาวิทยาลัยนั้นอาจมีความต่างกัน ไม่ได้มีวิชาแคลคูลัส ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ แต่ถึงไม่ได้มีเรียนวิชานี้ แต่ก็ควรมีพื้นฐานมาบ้าง แน่นอนว่าก่อนสอบก็ต้องมีพื้นฐานคณิตมาในระดับนึง แต่พอมาเรียนจริงๆ แล้ว ทุกอย่างเริ่มใหม่หมด เรื่องที่เกี่ยวกับเลข ก็จะมีแค่บวกลบคูณหารทั่วไป อาจบอกได้ว่า ไม่จำเป็นต้องเก่งขนาดนั้น เพราะว่าเรียนบัญชีต้องใช้เครื่องคิดเลข นักบัญชีกับเครื่องคิดเลขเป็นของคู่กันขาดกันไม่ได้เลยทีเดียว ถ้าไม่มีก็เหมือนตัดแขนตัดขาเลยก็ว่าได้
2. เรื่องที่เด็กบัญชีก็เคยเข้าใจผิดก่อนเข้ามาเรียน ?
หลายคนอาจจะมีภาพในหัวว่าการเรียนบัญชี มันก็คงคล้ายๆ การทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายสมัยเด็กๆ แน่เลย หรืออาจจะคิดว่าการเรียนบัญชี มันต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ตลอดเวลา อาจจะเป็นอะไรที่น่าเบื่อที่ต้องอยู่ในกรอบเสมอ แต่ความเป็นจริงแล้ว การเรียนบัญชีนั้นเป็นอะไรที่ต้องใช้ความคิดวิเคราะห์ ทุกอย่างต้องเป็นเหตุเป็นผล เด็กบัญชีหลายคนจึงเป็นคนที่ต้องคิดอยู่ตลอดเวลา แล้วสมัยนี้ ธุรกิจมีความซับซ้อนมากขึ้น การทำบัญชีก็มีหลายเรื่องที่ท้าทายอยู่ตลอดเวลา มีเรื่องใหม่ๆ ที่ต้องถกเถียงกันซึ่งต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณเยอะมาก ในบางเรื่องก็อาจไม่มีคำตอบที่ถูกต้องตายตัว มีแค่ว่ามันจะสมเหตุสมผลหรือเปล่า รุ่นพี่บัญชีหลายคนจึงบอกว่า เรียนบัญชีต้องมีใจรักมากๆ เพราะหลายคนก็ท้อและซิ่วไปเรียนสาขาอื่นเยอะเหมือนกัน และถ้าใครที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้เก่งมาก หรืออาจจะไม่ได้รักในวิชาชีพนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องมีก็คือความขยันที่มากขึ้น และค่อยๆให้ใจรักในวิชาชีพนี้
3. เรียนบัญชีจำเป็นต้องเก่งภาษาอังกฤษมั้ย ?
ความจริงแล้ว ไม่ต้องเก่งภาษาอังกฤษก็เรียนได้ แต่คนที่เรียนเก่งภาษาอังกฤษอยู่แล้วจะได้เปรียบมากกว่าเพราะการเรียนการสอนบางวิชาก็เรียนเป็นภาษาอังกฤษ เพราะว่าอาจารย์หลายๆ ท่านก็จบจากเมืองนอกด้วย และถ้าใครคิดอยากจะทำงานในบริษัท Big 4 หรือบริษัทตรวจสอบบัญชี ให้คำปรึกษาทั้งทางบัญชีและภาษีรายใหญ่ของโลก 4 แห่ง ก็จำเป็นอย่างมากที่ต้องเก่งภาษาอังกฤษ เพราะว่าทุกที่กระดาษทำการจะมีความเป็นสากล และเวลาสอบต้องสอบหรือมีคะแนนภาษาอังกฤษทุกที่ ดังนั้น ถ้าเราไม่เก่งก็ต้องฝึกฝน อย่าทำให้ภาษาอังกฤษมาเป็นปมด้อยและตัดโอกาสต่างๆ ในชีวิตเรา เพราะทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาษาอังกฤษนั้นจำเป็นกับเรากับทุกวิชาชีพมาแค่ไหน
4. วิชาไหนที่เด็กบัญชีคิดว่าปราบเซียนสุดๆ ?
ในแต่ละสาขาล้วนแล้วต้องมีวิชาที่ยากและปราบเซียน เช่นเดียวกันกับสาขาบัญชี ก็มีวิชาที่หลายคนต้องร้องโอดครวญและเสียน้ำตากันมาบ้างแล้วนั่นก็คือ "วิชาบัญชีต้นทุน" และ "วิชาบัญชีขั้นกลาง2" เพราะ 2 วิชานี้ทำให้เพื่อนเราหลายๆคนต้องได้ย้ายสาขา และบางคนถึงกับย้ายคณะกันเลยทีเดียว คิดดูว่ามันโหดแสนโหดขนาดไหน มีคนยกธงขาวกับวิชานี้เยอะเลยจ้า
5. เรียนจบบัญชี เป็นแค่นักบัญชีหรือเปล่า ?
คนที่เรียนบัญชีสามารถจบแล้วไปทำอะไรได้หลากหลาย ไม่ได้จำกัดว่าต้องอยู่ในสายอาชีพเพียงอย่างเดียว เพราะว่าในหลักสูตรก็จะมีการเรียนวิชาพื้นฐานอื่นๆ ทางธุรกิจด้วย ทั้งการเงิน (Finance), การตลาด (Marketing), และธุรกิจ (Business) แน่นอนว่า การเรียนจบบัญชีไม่ได้จำเป็นต้องออกไปทำบัญชีอย่างเดียว เราสามารถเป็นนักบัญชี เป็นผู้ตรวจสอบบัญชี (Auditor), เป็นที่ปรึกษา (Advisory) ให้กับบริษัทต่างๆ ในเรื่องของบัญชีและภาษีได้ หรืออาจจะเป็นนักเขียนโปรแกรมทางบัญชีก็ได้ แต่ต้องไปเรียนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เพิ่ม และก็ยังสามารถเป็นอาจารย์สอนบัญชีเหมือนอาจารย์หลายๆ ท่านก็ได้ ถ้าใครคิดจะเบนสายไปทำงานอย่างอื่น อาจจะได้เปรียบกว่า เพราะว่า เด็กบัญชีจะเข้าใจบัญชีได้ลึกกว่าคนทั่วไป เพราะว่า "บัญชีไม่ใช่เรื่องง่าย" สายงานเยอะไม่ต้องกลัวว่าจบบัญชีจะได้ทำงานแค่บัญชี
6. คิดว่าการเรียนบัญชีมันสอนอะไรกับเราได้บ้าง ?
ถ้าใครมีเพื่อนหรือรุ่นพี่ที่เรียนบัญชีมา เราจะสังเกตเห็นได้อย่างหนึ่งในตัวพวกเขาคือ การเป็นคนที่มีความละเอียดมาก ดูจากการซื้อของเลยกว่าจะซื้อได้คือเปรียบเทียบอยู่นั่นแหละอันไหนคุ้มไม่คุ้ม คนที่เรียนบัญชีหลายคนจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่มีความละเอียดมากขึ้น ไม่ว่าจะทำงานอะไรก็จะเรียบร้อย ตรวจสอบถี่ถ้วน ตรวจแล้วตรวจอีก และก็ฝึกในเรื่องของการทำงานเป็นกลุ่มร่วมกับคนอื่น โดยเฉพาะคณะสาขานี้ เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ใครที่มีความคิดที่จะไม่พึ่งพาใคร อยู่คนเดียวโนสนโนแคร์โลก ก็อาจจะอยู่ไม่รอด เอาจริงการอยู่คนเดียวไม่ได้ช่วยให้เราเข้าใจมากขึ้นเลย เราต้องมีเพื่อนคอยติวคอยอธิบายให้กันฟัน นี่เรียนมาคือเป็นเพื่อนกับทุกคนในห้องเลยจ้า ช่วยกันทั้งห้อง
7. เรื่องที่พี่ ๆ บัญชีอยากฝากถึงน้อง ๆ
ความพยายามเป็นสิ่งที่สำคัญ พยายามทำให้สิ่งที่ตัวเองรัก และไปให้สุดไม่ใช่ไปแค่ครึ่งๆกลางๆ จะทำอะไรให้สุด ไปเลย
ความพยายามเป็นสิ่งที่สำคัญ พยายามทำให้สิ่งที่ตัวเองรัก และไปให้สุดไม่ใช่ไปแค่ครึ่งๆกลางๆ จะทำอะไรให้สุด ไปเลย
ความมีเหตุผลคือสิ่งที่ควรมี สิ่งนี้มันเป็นพื้นฐานของทุกอย่าง แล้วการเรียนบัญชี ก็ไม่ได้จำเป็นต้องจบแล้วไปเป็นนักบัญชีเสมอไป และถ้าใครคิดจะเป็น Auditor (ผู้ตรวจสอบบัญชี) ต้องใช้หลักเหตุผลมากๆ เพราะว่าต้องดูความเป็นเหตุเป็นผลของรายการประมาณการที่ฝ่ายบริหารจัดเอาไว้ และก็ต้องรับผิดชอบต่อผู้ใช้งบทั้งหมด
ต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ได้และพร้อมปรับตัวอยู่เสมอ ต้องเป็นคนที่คิดว่าตัวเองสามารถอยู่ในกรอบความเป็นกฎเกณฑ์ได้ แล้วก็พร้อมที่ต้องเจอการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ด้วยความที่บัญชีมันมีมาตรฐานบังคับหลายเรื่อง แต่มาตรฐานก็เปลี่ยนแปลงบ่อยเหมือน สิ่งที่น้องๆ ควรฝึกเป็นนิสัยก็คือ การฝึกติดตามข่าวสาร ดูโฆษณา พร้อมปรับตัวอยู่เสมอ เพราะว่าบัญชีเป็นเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจที่ไม่เคยมีหยุดนิ่งหรือตายตัว
ต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ได้และพร้อมปรับตัวอยู่เสมอ ต้องเป็นคนที่คิดว่าตัวเองสามารถอยู่ในกรอบความเป็นกฎเกณฑ์ได้ แล้วก็พร้อมที่ต้องเจอการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ด้วยความที่บัญชีมันมีมาตรฐานบังคับหลายเรื่อง แต่มาตรฐานก็เปลี่ยนแปลงบ่อยเหมือน สิ่งที่น้องๆ ควรฝึกเป็นนิสัยก็คือ การฝึกติดตามข่าวสาร ดูโฆษณา พร้อมปรับตัวอยู่เสมอ เพราะว่าบัญชีเป็นเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจที่ไม่เคยมีหยุดนิ่งหรือตายตัว

